รายงานข่าวเศรษบกิจที่น่าสนใจของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รอบต้นเดือน กรกฎาคม ๒๕๖๔

Release Date : 25-07-2021 00:00:00
 รายงานข่าวเศรษบกิจที่น่าสนใจของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รอบต้นเดือน กรกฎาคม ๒๕๖๔

รายงานข่าวเศรษฐกิจที่น่าสนใจของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

รอบต้นเดือน กรกฎาคม 2564

1. การบรรลุข้อตกลงร่วมเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลกของกลุ่ม G20

1.1หลักการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกลุ่ม G20ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลกในอัตราร้อยละ 15ในการประชุมกลุ่ม G20ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 9-10กรกฎาคม 2564โดยผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการเจรจาคือนาง Janet Yellen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา ที่พยายามผลักดันให้ประเทศต่างๆ ยอมรับข้อเสนอในการกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำทั่วโลก ทั้งนี้ การปฏิรูปภาษีของกลุ่ม G20ประกอบด้วย 2เสาหลัก ได้แก่ (1) ประเทศที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทข้ามชาติ เช่น บริษัท Google และบริษัท Apple สามารถเรียกเก็บภาษีกับบริษัทข้ามชาติได้ ถึงแม้ว่าบริษัทข้ามชาติจะไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในประเทศนั้นๆ (2) การกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำอยู่ที่ร้อยละ 15มีเป้าหมายเพื่อป้องกันบริษัทข้ามชาติหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีในประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำกว่า โดยกำหนดให้บริษัทข้ามชาติที่จ่ายภาษีในประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำกว่าร้อยละ 15จะต้องจ่ายภาษีส่วนที่เหลือแก่ประเทศที่บริษัททำรายได้ด้วย อย่างไรก็ดี กลุ่ม G20ยังต้องมีการเจรจาเกี่ยวกับข้อยกเว้นการเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลกอีกครั้งในการประชุมกลุ่ม G20ครั้งต่อไปในเดือนตุลาคม 2564

1.2กลุ่มประเทศอียูที่คัดค้านการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลก และความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหพันธ์ฯ

การเจรจาเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลกของกลุ่ม G20ได้รับการคัดค้านจากสมาชิกอียู บางประเทศ ได้แก่ ไอร์แลนด์ เอสโตเนีย ฮังการี และไซปรัส ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลประโยชน์จากการเลี่ยงภาษีของบริษัทข้ามชาติเนื่องจากมีอัตราภาษีที่ต่ำในประเทศ ทั้งนี้ นาย Olaf Scholz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหพันธ์ฯ มีความเห็นว่าในระยะยาวกลุ่มประเทศที่คัดค้าน ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ จะไม่สามารถต่อต้านการตัดสินใจของกลุ่ม G20ได้ เนื่องจากการลงมติภายในอียู เกี่ยวกับเรื่องการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลก ไม่จำเป็นที่ทุกประเทศต้องเห็นพ้องด้วย และ หากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐอเมริกา การปฏิรูประบบภาษีขั้นต่ำทั่วโลกอาจไม่สามารถสำเร็จลุล่วงได้ เนื่องจาก สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ของโลก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหพันธ์ฯ รู้สึกพอใจต่อผล การเจรจาของกลุ่ม G20และถือเป็นการปฏิรูปครั้งประวัติศาสตร์ด้านภาษี อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหพันธ์ฯ เห็นว่าการนำระเบียบการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลกไปปรับใช้กับกฎหมายของแต่ละประเทศภายในปี 2565ค่อนข้างมีเวลาจำกัด แต่ก็คาดว่าจะดำเนินการได้ทันเวลาในที่สุด ทั้งนี้ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนา ทางเศรษฐกิจ (OECD) ประมาณการว่า รายรับที่ได้จากการเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้นถึง 150พันล้านยูโร ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหพันธ์ฯ เห็นว่าเป็นรายได้ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่แต่ละประเทศจะนำไปใช้จ่ายในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหพันธ์ฯ ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขรายได้ที่สหพันธ์ฯ จะได้รับประโยชน์จากการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำทั่วโลก

2. ด้านพลังงาน

เมื่อวันที่ 7กรกฎาคม 2564โรงไฟฟ้าถ่านหินในเขต Moorburg นครฮัมบูร์ก สหพันธ์ฯ ซึ่งมีกำลัง การผลิต 1,600เมกะวัตต์ และเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทันสมัยที่สุดของสหพันธ์ฯ ได้ปิดตัวลงโดยสมัครใจก่อนเวลาที่รัฐบาลสหพันธ์ฯ กำหนดไว้ในปี 2581ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าว ได้เปิดทำการผลิตไฟฟ้าได้เพียง 6ปี เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัท Vattenfall ได้ตัดสินใจปิดโรงไฟฟ ้าถ่านหินโดยสมัครใจก่อนกำหนดเวลาอันเนื่องมาจากสาเหตุ ดังนี้ (1) บริษัทฯ ต้องแบกรับภาระค่าธรรมเนียมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ที่สูงเกินไป (2) หลังจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเปิด ทำการผลิตใน ปี 2558เป็นต้นมา นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมได้ออกมาประท้วงบ่อยครั้ง (3) บริษัท Vattenfall มีความขัดแย้งกับรัฐฮัมบูร์กในโครงการสร้างท่อส่งความร้อนทอดผ่านแม่น้ำ Elbe ทำให้โครงการดังกล่าวถูกระงับ ส่งผลให้โรงไฟฟ้าถ่านหินไม่สามารถผลิตความร้อนควบคู่ไปกับการผลิตไฟฟ้าตามแผนเดิมได้ และ (4) บริษัท Vattenfall ชนะการประกวดในการยื่นข้อเสนอขอรับเงินชดเชยจาก Federal Network Agency ตามกฎหมายการยกเลิกการใช้ถ่านหิน (Kohlenausstiegsgesetz) ที่กำหนดให้โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ประสงค์ปิดตัวโดยสมัครใจก่อนปี 2581สามารถเข้าร่วมยื่นข้อเสนอขอรับเงินชดเชยได้ โดยบริษัทที่ยื่นข้อเสนอขอรับเงินชดเชยจำนวนต่ำสุดจะได้รับการคัดเลือกให้รับเงินชดเชย ในการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินก่อนเวลา อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าบริษัท Vattenfall จะชนะการประกวดและได้รับเงินชดเชย

จากรัฐบาลสหพันธ์ฯ แต่เงินชดเชยที่ได้รับยังต่ำกว่าต้นทนุ ที่ใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟา้ ถ่านหิน ซึ่งมีจำนวนหลายพันล้าน

ยูโร อนึ่ง บริษัท Vattenfall วางแผนปรับพื้นที่โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ปิดตัวลงเป็นโรงผลิตพลังงานไฮโดรเจนสีเขียวโดยใช้

ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม โดยจะลงทุนร่วมกับรัฐฮัมบูร์ก และบริษัท Shell

3. อุตสาหกรรมรถยนต์

3.1อียูสั่งปรับกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์ของสหพันธ์ฯ คณะกรรมาธิการอียูประกาศ เมื่อวันที่ 8กรกฎาคม

2564วา่ บรษิ ัท BMW AG และบริษัท Volkswagen AG ได้ละเมิดกฏข้อบังคับกฎหมายห้ามการผูกขาดของอียู (EUAntitrust

Law) ฐานสมรู้ร่วมคิดกันจำกัดการแข่งขันใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดมลพิษสำหรับรถยนต์ดีเซลที่ผลิตใหม่

โดยอียูเรียกเก็บค่าปรับจากบริษัท Volkswagen AG เป็นเงิน 502ล้านยูโร และบริษัท BMW เป็นเงิน 373ล้านยูโร ทั้งนี้

อียูมองว่าการสมรู้ร่วมคิดดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคสูญเสียโอกาสในการซื้อรถยนต์ดีเซลที่ปล่อยมลพิษน้อย อย่างไรก็ดี บริษัท

Daimler AG ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์ยี่ห้อ Mercedes Benz ไม่ได้ถูกอียูเรียกเก็บค่าปรับในฐานสมรู้ร่วมคิดแต่อย่างใด

เนื่องจากบริษัทฯ ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการอียู ในการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสอบสวน

ประเด็นฐานสมรู้ร่วมคิดกันจำกัดการแข่งขันใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดมลพิษสำหรับรถยนต์ดีเซลที่ผลิตใหม่

3.2แนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในสหพันธ์ฯ เมื่อปี 2553นาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรี

สหพันธ์ฯ ได้ตั้งเป้าหมายผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในสหพันธ์ฯ ให้ถึง 1ล้านคัน ภายในปี 2564โดยได้ตั้งงบประมาณ

จำนวนมาก สำหรับสิทธิประโยชน์ในรูปของ “Umweltbonus” แก่ผู้ซื้อยานยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ดี ในช่วงสิ้นปี 2563

จำนวนยานยนตไ์ ฟฟ้าในสหพันธ์ฯ ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ซึ่งต่อมารัฐบาลสหพันธ์ฯ ได้ขยายเวลาการให้เงิน

อุดหนุนในโครงการ “Umweltbonus”0

1ไปจนถึงสิ้นปี 2564และจะเปลี่ยนการใหเ้ งินอุดหนุนจากรูปแบบ

“Umweltbonus” เป็นโครงการ “Innovationsprämie”ในปี 2565โดยจะเพิ่มเงินอุดหนุนจากเดิมเป็น 2เท่า ซึ่ง

เงินอุดหนุนจะขึ้นอยู่กับราคารถยนต์ และชนิดของระบบขับเคลื่อนรถยนต์ โดยจะอยู่ระหว่าง 5,625-9,000ยูโร/การซื้อ

ยานยนต์ไฟฟ้า 1คัน และจะสามารถขอรับเงินอุดหนุนได้จนถึงปี 2568นอกจากนี้ ผู้ซื้อยานยนต์ไฟฟ้าจะยังได้รับการ

ยกเว้นภาษีรถยนต์ (Motor Vehicle Tax) เป็นเวลา 10ปี ด้วย ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ Federal Office for Economic

Affairs and Export Control ณ เดือนมิถุนายน 2564มผี ู้ยื่นคำร้องขอรับเงินอุดหนุนยานยนต์ไฟฟา้ จำนวน 640,000

ราย และตามข้อมูลของกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานสหพันธ์ฯ รัฐบาลสหพันธ์ฯ ได้จ่ายเงินอุดหนุน ณ สิ้นปี 2564

แล้วถึง 1.25พันล้านยูโร โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564การขอจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าพุ่งสูงถึงจำนวนเกือบ

149,000คัน ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานสหพันธ์ฯ ประเมินว่าจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับ

การจดทะเบียนในสหพันธ์ฯ น่าจะสูงถึง 7-10ล้านคัน ภายในปี 2573อนึ่ง ประธานสมาคมอุตสาหรรมรถยนต์แห่ง

สหพันธ์ฯ ให้ความเห็นว่าการใชย้ านยนต์พลังงานไฟฟา้ จะเพิ่มมากขึ้นจนสามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย greenhouse

gas emission neutrality ภายในปี 2573ได้ โดยรัฐบาลสหพันธ์ฯ ต้องผลักดันให้มีการขยายสถานีชาร์จยานยนต์

พลังงานไฟฟ้าให้ถึง 1ล้านสถานีด้วย

4. การพัฒนาวัคซีน

บริษัท BioNtech และ Pfizer กำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19ที่สามารถป้องกันเชื้อไวรัส

Covid-19ได้ทุกสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์ Delta เพื่อใช้สำหรับเป็นวัคซีนเสริมเข็มที่ 3หากผลการศึกษาทาง

วิทยาศาสตร์ ยืนยันว่ามีประโยชน์ โดยการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสฯ สำหรับการฉีดเสริมเข็มที่ 3มีสาเหตุมาจาก

การได้รับข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข/อิสราเอล ว่าภูมิคุ้มกันของวัคซีน BioNtech/Pfizer จะลดลงหลังจากได้รับ

วัคซีนผ่านไป 6เดือน นอกจากนี้ บริษัทฯ ไดศึ้กษาผลทางวิทยาศาสตร์ของวัคซีนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่า การฉีดวัคซีน

ป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19เสริมเข็มที่ 3ภายใน 6-12เดือนหลังจากการฉีดวัคซีนครบ 2เข็ม อาจเป็นประโยชน์

อย่างมากต่อการป้องกันเชื้อไวรัส Covid 19โดยผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่แน่นอน บริษัทฯ จะเผยแพร่ภายใน

ไม่ช้านี้ อนึ่ง ขณะนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมการขออนุมัติการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3กับ องค์การอาหารและยา (Food and Drug

Administration-FDA) ของสหรัฐอเมริกา และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency-EMA) แล้ว

หมายเหตุ เงินอุดหนุนของ รบ. สหพันธ์ฯ ที่จ่ายให้กับผู้ซื้อยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ตาม กม. Electromobility Act ของสหพันธ์ฯ ทั้งนี้ จำนวนเงินอุดหนุนขึ้นอยู่กับชนิดของระบบขับเคลื่อนและราคาของยานยนต์ไฟฟ้า